เวลานั้นเร่งด่วน
“เวลานั้นสายแล้ว มันถึงเวลาแล้วที่จะตัดสินใจ ผมค่อนข้างมั่นใจว่าคุณจะเลือกอย่างฉลาดในการจัดการกับประเด็นโลกร้อน นักวิทยาศาสตร์ได้บอกไว้ค่อนข้างชัดเจน” 1
—บัน คี มูน
“เรามีวิกฤติอากาศที่เปลี่ยนแปลง ซึ่งเป็นเรื่องฉุกเฉินระดับโลก”
—อัล กอร์
นักวิทยาศาสตร์ของโลกเกรงว่า ถ้าเราผ่านจุดที่ไม่อาจหวนคืน ขั้นต่อไปของการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศจะไม่เพียงแค่รวดเร็ว แต่อาจไม่สามารถหวนกลับได้และจะเกิดภัยพิบัติที่รุนแรง ได้มีสัญญาณที่แสดงว่าช่วงเวลาอันตรายนี้กำลังใกล้เข้ามาแล้ว จากการที่ทะเลสาบต่าง ๆ และในบริเวณอื่น ๆ มีก๊าซมีเทนผุดขึ้นมา แทนที่จะถูกเก็บกักไว้อย่างปลอดภัยใต้แผ่นน้ำแข็งโลก
ไม่มีใครทราบถึงวันที่มีเทนจำนวนมหาศาลในปริมาณที่ไม่อาจควบคุมได้จะถูกปล่อยออกมา ซึ่งจะทำให้อุณหภูมิสูงอย่างฉับพลัน และเป็นตัวเร่งปรากฏการณ์โลกร้อนที่ไม่อาจหวนคืน สิ่งนั้นจะเป็นหายนะแก่เรา
ผลกระทบที่ทำลายล้างอื่น ๆ ของสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงได้เกิดขึ้นแล้ว น้ำแข็งอาร์คติกซึ่งเป็นตัวสะท้อนความร้อนจะหายไปในฤดูร้อนอันใกล้นี้ ระดับน้ำทะเลที่ขึ้นสูง และเกาะที่จมลงหรือถูกคุกคามนับสิบ ๆ แห่ง บริเวณมรณะในมหาสมุทร เกิดขึ้นจากความเป็นกรดที่เกินกว่าที่สิ่งมีชีวิตจะอาศัยอยู่ได้เนื่องจากก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์มากเกินไป ไฟป่ารุนแรนเกิดขึ้นบ่อยครั้ง สัตว์ป่ากำลังสูญพันธุ์อย่างรวดเร็วเกินอัตราการสูญพันธุ์ตามธรรมชาติถึง 100 เท่า พายุทำลายล้างที่รุนแรงเกิดบ่อยครั้งขึ้น การระบาดของยุงที่เป็นพาหะนำโรคจากการขยายตัวของพื้นที่เขตร้อน แผ่นน้ำแข็งของโลกหายไป ทะเลสาบ และแม่น้ำกำลังเหือดแห้งหรือหายไปนับหมื่น ๆ แห่ง และการแผ่ขยายของพื้นที่ทะเลทราย
จากผลกระทบทางสิ่งแวดล้อมเหล่านี้ ประชากรสองพันล้านคนกำลังเผชิญกับการขาดแคลนน้ำ และ 20 ล้านคนอยู่ในภาวะสิ้นหวังเหมือนดั่งผู้ลี้ภัยแต่ไม่ได้รับการคุ้มครองใด ๆ จากรัฐ
เหล่านี้เป็นผลลัพธ์ซึ่งเกือบทั้งหมดมาจากการกระทำที่รุนแรงของมนุษย์ การกระทำหมายเลขหนึ่งก็คือการกินเนื้อสัตว์
[นอกจากนี้] อุตสาหกรรมปศุสัตว์เป็นสาเหตุหลักของการกัดกร่อนของดินในโลก มันคือตัวขับเคลื่อนหลักของการเกิดพื้นที่ทะเลทราย การสูญเสียความหลากหลายทางชีวภาพ และการสูญเสียน้ำและมลภาวะทางน้ำ ทั้ง ๆ ที่น้ำกำลังหายากขึ้นทุกวัน เนื่องจากภาวะโลกร้อน นอกจากนี้ภาคปศุสัตว์ยังใช้น้ำมันเชื้อเพลิงและธัญพืชไปอย่างไร้ประสิทธิภาพ กล่าวโดยย่อก็คือ เราทิ้งขว้างธัญพืชไปมากกว่า 12 เท่า น้ำอย่างน้อย 10 เท่า และพลังงานเชื้อเพลิงแปดเท่าในการผลิตเนื้อวัว เมื่อเทียบกับการผลิตอาหารวีแก้นในสัดส่วนของสารอาหารที่เท่าเทียมกันหรือมากกว่า
หนทางเดียวที่จะหลีกเลี่ยงหายนะสภาพอากาศ “ที่ไม่อาจหวนคืน” ก็คือ การลงมือดำเนินการโดยมุ่งไปที่สาเหตุที่สำคัญที่สุดที่ก่อให้เกิดภัยพิบัติซึ่งก็คือการผลิตเนื้อสัตว์ ในตอนนี้เรามีหลักฐานและข้อมูลทั้งหมดที่ทำให้กล่าวได้อย่างมั่นใจว่า อุตสาหกรรมปศุสัตว์คือตัวการผลิตก๊าซเรือนกระจกอันดับหนึ่ง
การค้นพบล่าสุดที่ได้รับการตีพิมพ์จากองค์การสหประชาชาติในปี 2006 บอกเราว่า อุตสาหกรรมปศุสัตว์เป็นสาเหตุของการปล่อยก๊าซเรือนกระจกมากกว่าภาคการขนส่งทั้งหมดในโลก - เครื่องบิน รถไฟ รถยนต์ รถมอเตอร์ไซด์ ฯลฯ รวมกัน 2 “การคำนวณใหม่บอกเราว่า อุตสาหกรรมปศุสัตว์เป็นสาเหตุของภาวะโลกร้อนอย่างน้อย 50%” 3
“การวิเคราะห์ของเราแสดงให้เห็นว่า ปศุสัตว์และผลิตผลพลอยได้ของมัน แท้จริงแล้วเป็นสาเหตุของการปล่อยก๊าซเรือนกระจก 32,564 ล้านตันต่อปี ในหน่วยของคาร์บอนไดออกไซด์ หรือ 51 เปอร์เซ็นต์ของการปล่อยก๊าซเรือนกระจกทั่วโลกในแต่ละปี” 4
-สถาบันเวิร์ลวอร์ช
มีเทนนั้นทรงพลังกว่า CO2
การปศุสัตว์เป็นสาเหตุหลักของปล่อยก๊าซมีเทนที่เกิดจากมนุษย์ และมีเทนไม่เพียงสามารถเก็บกักความร้อน 72 เท่า มันยังเป็นก๊าซที่มีอายุสั้น ซึ่งหมายความว่า มันจะหายไปจากบรรยากาศได้เร็วกว่าคาร์บอนไดออกไซด์ภายในหนึ่งทศวรรษ ซึ่งตรงข้ามกับเป็นพัน ๆ ปีของก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ดังนั้นการกำจัดมีเทนโดยการกำจัดการเพาะพันธุ์ปศุสัตว์ คือหนทางที่เร็วที่สุดที่จะทำให้โลกนี้เย็นลง
ใช่แล้ว เราต้องจัดการตัวปล่อยก๊าซที่สำคัญที่สุดนี้
ฉันอธิษฐานให้ผู้นำผู้มีปัญญาทุกคนหยุดยั้งการผลิตเนื้อสัตว์ที่เป็นภัยถึงชีวิต ซึ่งเป็นตัวผลักดันหลักให้เราไปถึงจุดที่ไม่อาจหวนคืนในขณะนี้ มิฉะนั้นแล้วความพยายามทั้งหลายอื่น ๆ ในการลดคาร์บอนในระบบของเราอาจล้มเหลวไป หรือไม่มีโอกาสที่จะบรรลุผลได้
เราจะทำลายโลกใบนี้หากเรายังไม่หยุดกินเนื้อสัตว์ ผลิตเนื้อสัตว์และผลิตภัณฑ์สัตว์อื่น ๆ