• Chapter 3. Organic Veganism to Heal the Planet > It is the Fastest and Greenest Solution
    • II. เป็นทางออกที่รวดเร็วที่สุดและสีเขียวที่สุด

       

      ทำให้โลกของเราเย็นลงทันที

       

      แมรีแอน ธีม ผู้ก่อตั้งร่วมพรรคสัตว์ที่เนเธอร์แลนด์ ได้ระบุไว้อย่างชัดเจนถึงประโยชน์ทางสิ่งแวดล้อมของการลดการทานเนื้อสัตว์ อย่างเช่น ถ้าชาวบริตันทุกคนละเนื้อสัตว์เป็นเวลาเจ็ดวัน มันจะเทียบเท่ากับครึ่งหนึ่งของ 25 ล้านครัวเรือนของประเทศ เปลี่ยนเป็นบ้านที่มีการปล่อยก๊าซที่เป็นศูนย์หกวันต่อสัปดาห์ มันจะเหมือนกับการเอารถ 29 ล้านคันของประเทศออกไปจากถนน

                                 

                                          แหล่งที่มาของข้อมูล: ออแกนิก ผู้กอบกู้โลกจากสภาวะอากาศ? รายงานของฟู๊ดว๊อชในเรื่องผลกระทบของภาวะก๊าซเรือนกระจกของการทำฟาร์มแบบปกติและแบบออแกนิก พฤษภาคม 2009 หน้าที่ 10

       

      การเปรียบเทียบกับการทานอาหารเนื้อสัตว์ทั่วไป

       

      ·           การทานอาหาร [ที่มีเนื้อสัตว์] แบบออแกนิก ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้ 8%

      ·           การทานอาหารวีแก้นที่ปลอดเนื้อสัตว์ทำให้เกิดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกเพียง 1/7 ของการปล่อยก๊าซจากอาหารเนื้อสัตว์ – ซึ่งลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้ 86%

      ·           การทานอาหารวีแก้นออแกนิกทำให้ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้ 94%101

      รายงานของฟู๊ดวอทช์เรื่องผลกระทบของก๊าซเรือนกระจกของการทำฟาร์มแบบเดิมกับแบบออแกนิก ที่เยอรมัน

       

       

      [ดังนั้น] นโยบายที่สีเขียวที่สุดของสีเขียว การกระทำที่สีเขียวที่สุดของที่สุด ที่มีเมตตาที่สุด ที่เป็นวีรบุรุษที่สุด ที่ช่วยชีวิตได้มากที่สุด คือการทานอาหารวีแก้น

      เหตุผลก็คือผลกระทบโลกที่เย็นลงของการขจัดมีเทนจากบรรยากาศ ซึ่งเกิดขึ้นตอนที่เราเปลี่ยนไปทานวีแก้นออแกนิก และนอกจากการขจัดการปล่อยมีเทนที่เป็นพิษออกไปแล้ว วิธีเพาะปลูกแบบออแกนิกสามารถเก็บคาร์บอนกลับสู่ผืนดินได้อีก 40%  ดังนั้นการเป็นวีแก้นจึงไม่เพียงลดการปล่อยก๊าซได้เป็นจำนวนมาก แต่ยังดูดซับคาร์บอนจากบรรยากาศได้อีก

      และด้วยวิธีนั้น เรากำลังมุ่งหน้าไปสู่การช่วยรักษาโลกใบนี้ไว้ เพราะการเปลี่ยนไปทานอาหารปลอดเนื้อสัตว์จะขจัดการผลิตมีเทนทั้งหมด และมลพิษที่เกี่ยวข้องออกไป ยังไม่พูดถึงความทารุณสัตว์ มันจะช่วยแก้ไขภัยพิบัติของโลก เช่น สึนามิ น้ำท่วม วาตภัย พายุไต้ฝุ่น และแผ่นดินถล่ม ฯลฯ ๆ

      ที่จริงแล้ว ประธานที่ประชุมด้านอากาศที่เปลี่ยนแปลงขององค์การสหประชาชาติ นายยโว เดอ โบเออร์ กล่าวไว้ในเดือนมิถุนายน 2008 ว่า “ทางออกที่ดีที่สุดก็คือเราทุกคนเปลี่ยนเป็นมังสวิรัติ” เขาหมายถึงวีแก้น

      เป็นวีแก้น: วิถีชีวิตที่สีเขียวที่สุด

       

      [การหยุดผลิตเนื้อสัตว์] ลดค่าใช้จ่าย 80% ของค่าใช้จ่าย 40 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐสำหรับการบรรเทาภาวะโลกร้อน ใช้ที่ดินในการเพาะปลูกอาหารน้อยกว่าถึง 4.5 เท่า อนุรักษ์น้ำสะอาดได้ 70% อนุรักษ์ป่าฝนอเมซอนสำหรับการเลี้ยงสัตว์ได้ 80% ทางออกสำหรับความหิวโหยของโลกก็คือ ประหยัดที่ดินได้ 3.4 พันล้านเฮกเตอร์ ประหยัดธัญพืชได้ 760 ล้านตันต่อปี (คิดเป็นครึ่งหนึ่งของธัญพืชของโลก) อนุรักษ์เชื้อเพลิงฟอสซิลสำหรับการผลิตเนื้อสัตว์ได้หนึ่งในสาม ลดมลภาวะจากการบำบัดของเสียจากสัตว์ ลดการปล่อยก๊าซต่อครัวเรือนในสหรัฐได้ 4.5 ตันต่อปี หยุดภาวะโลกร้อนได้ 80% และอีกมากมาย

      การศึกษาหนึ่งในสหรัฐอเมริกาพบว่า การทำฟาร์มออแกนิกรักษาหน้าดินและรักษาแหล่งน้ำให้สะอาด และถ้านำไปปฏิบัติทั่วโลก จะดูดซับและหยุดการปล่อย CO2 ได้ 40% ของที่มีอยู่ในปัจจุบันทั้งหมด สิ่งนี้จะเป็นประโยชน์ต่อโลกของเราโดยตรง

      ประโยชน์ด้านอื่น ๆ ของการทำฟาร์มวีแก้นออแกนิกก็คือ การผลัดเปลี่ยนชนิดพันธุ์พืช วัสดุคลุมดิน และปุ๋ยธรรมชาติ การผลัดเปลี่ยนพันธุ์พืชหมายถึง ทุ่งที่ใช้เพาะปลูกในแต่ละฤดูด้วยพืชชนิดต่าง ๆ กัน วิธีที่หลากหลายนี้ช่วยรักษาพืชให้มีสุขภาพดี อีกทั้งยังรักษาความอุดมสมบูรณ์และสารอาหารไว้ในดิน  วิธีการอื่น ๆ เช่น การคลุมดิน และวิธีใหม่ที่เรียกว่า การทำฟาร์มออแกนิกแบบไม่พรวนดิน จะช่วยรักษาความชื้นและลดการกัดกร่อนของดินได้อย่างมาก

      ดังนั้น โดยทั่วไปแล้ว การทำฟาร์มวีแก้นออแกนิกเป็นไปตามปรัชญาการมีชีวิตที่กลมเกลียวกับธรรมชาติ และการพิทักษ์ดาวเคราะห์และทุกสรรพสิ่ง พอเวลาผ่านไป วิธีต่าง ๆ ที่ใช้จะช่วยสนับสนุนสมดุลธรรมชาติระหว่างการทำฟาร์มและสิ่งแวดล้อม ทั้งการดูแลและวิถีปฏิบัติด้วยเทคนิคที่มีอยู่นี้ สามารถไปได้ไกลในการฟื้นฟูสมดุลจากปัญหาที่อาจเกิดขึ้นแล้วในอดีต

       

      การทานผลิตผลท้องถิ่น และการทานเนื้อสัตว์ออแกนิก?

       

      มันน่าสนใจที่การศึกษาหนึ่งได้แสดงให้เห็นว่า การทานอาหารในท้องถิ่นนั้นไม่ได้ดีเท่ากับการทานอาหารวีแก้น ยกตัวอย่างเช่น นักวิทยาศาสตร์ที่มหาวิทยาลัยคาเนกี้เมลลอน ได้คำนวณว่า การทานอาหารวีแก้นนั้นลดการปล่อยก๊าซได้เจ็ดเท่า เทียบกับ 100% ของการทานเนื้อสัตว์ในท้องถิ่น ดังนั้น การทานอาหารวีแก้นจึงดีกว่าการทานอาหารในท้องถิ่นด้วยซ้ำไป

      ในอีกการศึกษาหนึ่ง องค์การฟู๊ดวอชที่เยอรมันได้พบว่า การเปลี่ยนจากการทานเนื้อสัตว์ไปเป็นการทานเนื้อออแกนิกนั้น ลดการปล่อยก๊าซได้เพียง 8% แต่การเปลี่ยนไปทานอาหารวีแก้นที่ไม่ใช่ออแกนิก แม้ว่าจะไม่ใช่ออแกนิก อาหารวีแก้น ลดการปล่อยก๊าซได้ 86%102 ดังนั้น เรารักษาดาวเคราะห์ไว้ได้ด้วยการเป็นวีแก้น แม้ว่าจะไม่ใช่ออแกนิก!  ดังนั้น ที่จริงแล้ว ออแกนิกนั้นดี การทานอาหารในท้องถิ่นนั้นวิเศษ แต่ก้าวแรกก็คือ อย่างน้อย เป็นวีแก้น จะออแกนิกหรือไม่ก็ตาม

      แม้แต่เนื้อสัตว์ออแกนิกก็ไม่ได้เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมเลย มันต้องใช้ที่ดินมากกว่า ใช้พลังงานมากกว่าเนื้อสัตว์ที่ไม่ใช่ออแกนิกเสียอีก ในการทำฟาร์มเนื้อ คุณเชื่อหรือไม่? ดังนั้น มันไม่ได้ช่วยอะไรเลยที่จะพยายามเลี้ยงสัตว์อย่างออแกนิก อย่างเช่น ไก่ออแกนิก วิถีที่ยั่งยืน ไม่กักขัง ต้องใช้พลังงานมากกว่า 20% และมีผลกระทบต่อภาวะโลกร้อนมากกว่าฟาร์มไก่ที่ไม่ใช่ออแกนิก 20% ลองคิดดู เราจึงได้รับข้อมูลที่ผิดมาโดยตลอด

    บทที่ 1.
    บทที่ 2.
    บทที่ 3.
    บทที่ 4.
    บทที่ 5.
    บทที่ 6.


    Copyright © The Supreme Master Ching Hai. All rights reserved. *