II. โลกกำลังขึ้นสู่อารยธรรมกาแลคซี่ที่สูงกว่า
เกี่ยวกับการขึ้นสู่ระดับที่สูงขึ้นของโลกเรา นั่นคือแผนของจักรวาลสำหรับโลกเราที่เราควรตามให้ทัน ที่เราควรขึ้นไปพร้อมกับดวงดาวอื่น ๆ ที่สูงกว่าในการพัฒนาทางจิตวิญญาณ นั่นคือแผนการที่ได้ถูกวางไว้ แต่มนุษย์มีเจตจำนงเสรี และสำหรับเจตจำนงเสรีนั้น พวกเขาไม่ได้ใช้มันอย่างฉลาด
เรียนรู้จากบทเรียนของดาวอังคารและดาวศุกร์
โลกเข้ารวมกับ [ดาวเคราะห์] ดวงอื่น ๆ ในกาแลคซี่ – นั่นเป็นวิสัยทัศน์ขนาดใหญ่ เราเพียงแค่มองที่ดาวเคราะห์เพื่อนบ้านของเรา ดาวอังคารและดาวศุกร์ ก็จะเห็นว่าภาพนั้นคือความมืดมัว เป็นภัยพิบัติ หากเราไม่เลือกอย่างถูกต้อง จงทำการเปลี่ยนแปลงที่ถูกต้องเดี๋ยวนี้
นักดาราศาสตร์คนใดก็ตามรู้ว่า ดาวอังคารและดาวศุกร์ได้ผ่านการเปลี่ยนแปลงทางสภาพอากาศอย่างรวดเร็วในอดีต คล้ายกับที่เรากำลังจะประสบในตอนนี้ นานมาแล้ว ดาวอังคารและดาวศุกร์ ครั้งหนึ่งเคยเป็นเหมือนโลกของเรามาก – พวกเขามีน้ำ ชีวิตและผู้คนเหมือนกับเรา แต่ประชากรของดาวอังคารและดาวศุกร์ได้ทำลายบ้านของพวกเขา เพราะพวกเขาเลี้ยงปศุสัตว์มากเกินไป และก๊าซที่ถูกปล่อยออกมา ได้กระตุ้นให้เกิดปรากฏการณ์เรือนกระจกที่ไม่สามารถเยียวยาได้ ผนวกกับไฮโดรเจนซัลไฟด์ที่เป็นพิษในกรณีของดาวอังคาร ดังนั้น นั่นคือเหตุที่เราเห็นเพียงร่องรอยของแผ่นดินและมหาสมุทรที่ครั้งหนึ่งเคยอยู่ที่นั่น
ดาวเคราะห์ประมาณห้าพันล้านดวงได้ถูกทำลายไป หรือมีชะตาที่คล้ายกับดาวศุกร์หรือดาวอังคาร เฉพาะดาวเคราะห์ที่ผู้อยู่อาศัยที่มีระดับจิตสำนึกต่ำที่ได้ถูกทำลายไป ไม่ใช่ดาวที่มีระดับสูง
และบนดาวศุกร์ บรรยากาศนั้นร้อนมากและเต็มไปด้วย CO2 - คาร์บอนไดออกไซด์ - นักวิทยาศาสตร์เรียกมันว่า “ภาวะโลกร้อนที่ไม่อาจหวนคืน” และกล่าวว่านี่คือสิ่งที่โลกอาจจะเป็นในอนาคต
ดาวเคราะห์ที่รอดพ้นจากการทำลาย อย่างดาวศุกร์ รอดพ้นได้เพราะสังคมของพวกเขาเปลี่ยนเป็นวีแก้น – ฉันหมายถึงดวงที่รอด ฉันได้เคยกล่าวไว้แล้วว่ามีดาวศุกร์สี่ดวง – แต่มีสองดวงที่รอดเพราะสังคมของพวกเขาเปลี่ยนเป็นวีแก้น ดาวศุกร์อีกสองดวงได้ถูกทำลายไป – ดวงหนึ่งหายไปโดยสิ้นเชิง อีกดวงกำลังเดือดพล่าน ไม่สามารถอยู่อาศัยได้ เพราะพวกเขาไม่ได้เป็นวีแก้น
ผู้คนส่วนใหญ่บนดาวอังคารไม่รู้ หรือไม่ฟังว่าอาหารวีแก้นคือหนทางแก้ไข ชาวดาวอังคารได้เผชิญกับการทำลายล้างมาแล้วครั้งหนึ่งและไม่เคยลืมบทเรียนอันแสนเจ็บปวดนั้น และพวกเขามีเมตตาพอที่จะส่งสาสน์ของพวกเขาให้กับชาวโลกผ่านการติดต่อของเรา สาสน์ของพวกเขาก็คือ จงมีศีลธรรม รักษาบ้านของคุณก่อนที่มันจะสายเกินไป
เราอยู่ใกล้จุดนั้นแล้ว เราเกือบถึงจุดที่ไม่อาจหวนคืน นั่นคือเหตุที่เราพยายามอย่างต่อเนื่องในตอนนี้เพื่อเผยแพร่ทางออกอาหารมังสวิรัติ มันให้พลังทางกายภาพที่จะหยุดภาวะโลกร้อน เพราะมันมีพลังคุณธรรม มันมีพลังวิทยาศาสตร์ “สิ่งที่เหมือนกันดึงดูดกัน” เราต้องเคารพชีวิต แล้วเราจะได้รับชีวิต
เพื่อนที่สูงส่งในกาแลคซี่กำลังรออยู่
มีดาวเคราะห์ที่เป็นมังสวิรัติมากมายเท่า ๆ กับดาวเคราะห์ที่ไม่เป็นมังสวิรัติ มันมีนับไม่ถ้วน นับไม่ถ้วน แค่ในกาแลคซี่ของเราเท่านั้น พวกเขามีนับไม่ถ้วนแล้ว และดาวเคราะห์สังคมมังสวิรัติเหล่านี้ พวกเขาก้าวหน้ากว่าเรามาก พวกเขามีแม้แต่เข็มขัดเดินทาง มีอีกมากมาย เกินกว่าที่เราจะฝันถึงได้
ผู้คนในสังคมเหล่านั้น สามารถเพลิดเพลินกับเวลาว่างมากมาย และพัฒนางานอดิเรกและพรสวรรค์ และค้นพบความสามารถที่ซ่อนเร่นอยู่ภายในตัวพวกเขาด้วย ดังนั้น ในสังคมเหล่านั้น จึงมีสิ่งประดิษฐ์มหัศจรรย์เกิดขึ้นมากมาย เพราะผู้คนผ่อนคลายและทำสิ่งที่พวกเขาทำได้ดีที่สุด ไม่มีใครกังวลเกี่ยวกับการขาดแคลนสิ่งของจำเป็นทางกายภาพ ดังนั้นชีวิตของพวกเขาจึงเต็มไปด้วยอิสรเสรีและความสุข นั่นไม่ฟังดูวิเศษหรือ?
สังคมเหล่านั้นทั้งหมดเป็นวีแก้น ฉันเคยบอกคุณแล้ว แนวคิดของพวกเขาเกี่ยวกับชีวิตนั้นชัดเจนมาก – ชัดเจนมาก ไม่เห็นแก่ตัว ไร้เงื่อนไข เฉลียวฉลาดมาก ฉันไม่เคยเห็นอารยธรรมใดเลยที่ก้าวหน้าและมีความสุข มีความปีติยินดี ที่ไม่เป็นสังคมวีแก้น
นอกจากนี้ เมื่อเราหยุดการฆ่า เราก็จะสร้างความรักความเมตตามากขึ้น และบรรยากาศที่น่าเชื้อเชิญสำหรับตัวตนที่สูงส่งอื่น ๆ ในกาแลคซี่ให้มาร่วมกับเรา หรือติดต่อเรา
อย่างไรก็ตามถ้าเราโชคดีที่จะได้รู้จักดวงดาวเหล่านี้ หรือตัวตนที่พัฒนาแล้วเช่นนี้ แล้วความสุขและสันติสุขของดวงดาวเหล่านั้นหรือของผู้คนเหล่านั้น ก็จะทำให้เรารู้สึกอยากไปที่นั่น และไม่ใส่ใจมากนักกับผลประโยชน์หรือการกล่าวโทษของโลกนี้ เราจะแค่ไปจากโลกนี้เวลาไหนก็ได้ ถ้าเรามีโอกาสได้เข้าร่วมกับพวกเขา แต่เนื่องจากเรายังไม่ได้พัฒนาอย่างที่พวกเขาเป็น - ทางจิตวิญญาณ ทางจิตใจ และทางจิตวิทยาและคุณธรรม - พวกเราบางคนยังไม่ เราจึงไม่สามารถเข้าใกล้กับพวกเขาได้มากนัก และเราไม่สามารถอยู่ร่วมกับพวกเขา และดวงดาวของเราไม่สามารถจัดอยู่ในกลุ่มเดียวกับพวกเขาได้
ดังนั้นพวกเขากำลังรอคอยอย่างกระตือรือร้น พวกเขาได้ส่งข้อความมาถึงเรา ที่ว่าเราควรพัฒนามากขึ้นเพื่อที่เราจะสามารถตามทันกับระบบกาแลคซี่ทั้งหมด และพวกเขาเฝ้าคอยอยู่ตลอดเวลาที่จะช่วยยกระดับความเข้าใจทางจิตวิญญาณ ความสามารถทางจิตและเทคโนโลยีของเรา
พวกเขาจะไม่ใช้จิตจำนงของพวกเขาบนตัวเราด้วยเช่นกัน พวกเขากำลังรอคอย คอยและคอยให้เราพร้อม ตราบใดที่เรายังไม่เลือกที่จะดำรงชีวิตตามมาตรฐานที่สูงของจักรวาล เราจะมีความยากลำบากในการค้นหาสันติสุขภายในตัวเราเอง เช่นเดียวกับตัวตนอื่น ๆ ในจักรวาล เราจะขาดการติดต่อกับพลเมืองของดาวเคราะห์เพื่อนบ้านของเรา เราจึงไม่ทราบถึงการดำรงอยู่ของพวกเขา
อย่างไรก็ตาม มันไม่ยากที่จะเปลี่ยนทั้งหมดนี้ เราแค่ต้องกลับคืนสู่ความรักดั้งเดิมของเราเอง เพราะนั่นคือสิ่งที่เราเป็น เราคือความรัก เราคือสวรรค์ เราคือความเมตตากรุณา เราคือสิ่งที่ดีที่สุดในจักรวาล แค่ว่าเราลืมมันไป